Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

พืชที่เหมาะสมสำหรับที่สูง

Posted By Plookpedia | 22 ธ.ค. 59
3,888 Views

  Favorite

พืชที่เหมาะสมสำหรับที่สูง

ลักษณะพิเศษของอากาศบนที่สูงนี้ ทำให้สามารถปลูกพืชที่ชอบอากาศหนาวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ที่เป็นประโยชน์ ในด้านป่าไม้ ไม้ผล พืช ผัก ไม้ดอก ไม้ประดับ หรือพืชไร่ พืชที่เราไม่เคยปลูกได้มาก่อน ก็สามารถปลูกได้เป็นการค้า เช่น แอปเปิล สาลี่ ท้อ พลับ พลัม บ๊วย กาแฟอะราบิกา กีวี ราสป์เบอร์รี มะเดื่อฝรั่ง ลินิน ไพรีทรัม ถั่วแดงหลวง เห็ดหอม อะเซเลีย แอลสโตรมีเรีย เป็นต้น ส่วนพืชบางชนิดก็สามารถปลูกได้ดียิ่งขึ้นบนที่สูง เช่น สตรอว์เบอร์รี องุ่น ข้าวสาลี ผักกาดหอมห่อ เซเลอรี เอ็นไดฟ์ กะหล่ำปลีแดง โกโบ มันฝรั่ง ปวยเหล็ง คาร์เนชัน แกลดิโอลัส กุหลาบ เบญจมาศ เยอร์บีรา สแตติส เป็นต้น

ผลสตรอว์เบอร์รี

  มีพืชหลายชนิดที่สามารถปลูกได้ตลอดปีบนที่สูง เช่น ผักต่างๆ มันฝรั่ง ไม้ดอก และไม้ประดับ จึงทำให้เกิดอาชีพที่จะปลูก "พืชนอกฤดู" ได้อีกด้วย เช่น ผักและไม้ดอกเมืองหนาวนั้น จะปลูกได้ในพื้นที่ต่ำเฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น ในฤดูที่ไม่สามารถปลูกได้ในพื้นที่ต่ำจึงเหมาะที่จะปลูกบนที่สูง เพราะจะขายได้ราคาดี และไม่มีการแข่งขันมากนัก
พืชบางชนิดจะมีความเหมาะสมในการปลูกบนที่สูง เพื่อทำเป็นเมล็ดพันธุ์หรือหัวพันธุ์ มีพืชผักหลายชนิด ที่จะออกดอกติดเมล็ดได้ดีบนที่สูง เมล็ดผักเหล่านี้สามารถใช้เป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับการ ปลูกในพื้นที่ต่ำได้เป็นอย่างดี ทำให้ลดการสั่งเข้าเมล็ดพันธุ์ผักจากต่างประเทศไปได้มาก นอกจากนี้แล้ว พืชที่ใช้หัวเป็นพันธุ์ปลูก เช่น มันฝรั่ง ก็สามารถผลิตหัวพันธุ์บนที่สูงได้ เป็นหัวพันธุ์ที่จะนำไปปลูกในพื้นที่ต่ำในฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูมันฝรั่งของพื้นที่ต่ำทางภาคเหนือ

ไร่ถั่วแดงหลวง


จะเห็นได้ว่าการปลูกพืชบนที่สูงนั้น สามารถตั้งวัตถุประสงค์ให้เกิดประโยชน์ได้เป็น ๔ กรณี คือ 

๑. ปลูกพืชเมืองหนาวที่ไม่สามารถปลูก ในที่อื่นได้ 
๒. ปลูกพืชที่ทำให้ได้คุณภาพของผลิตผล และผลประโยชน์ดีขึ้น 
๓. ปลูกพืชนอกฤดู 
๔. ปลูกพืชเพื่อผลิตเมล็ดหรือหัวพันธุ์ 

ในบรรดาพืชต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มีพืชเมืองหนาวชนิดหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ไม้ผลเขตหนาวชนิดผลัดใบ ไม้ผลชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดในเขตหนาว จึงมีลักษณะทางสรีรวิทยาผิดแผกไปจากพืชเมืองร้อนอย่างมาก แต่การค้นคว้าวิจัยเป็นเวลานานพอสมควร ทำให้เราสามารถปลูกไม้ผลเขตหนาวผลัดใบได้หลายชนิดบนที่สูงของประเทศไทย เช่น แอปเปิล สาลี่ ท้อพันธุ์ดี หรือพีช พลัม บ๊วย และพลับ เป็นต้น
ความพยายามที่จะปลูกไม้ผลดังกล่าวนี้ เกิดจากความต้องการ ที่จะลด หรือทดแทนการสั่งเข้า ผลไม้ต่างประเทศ และความต้องการที่จะหาพืชยืนต้น ที่ทำรายได้ดีทดแทนรายได้จากการปลูกฝิ่น นอกจากนั้นไม้ผลซึ่งเป็นไม้ยืนต้นนี้ จะช่วยให้ชาวเขาตั้งหลักแหล่งอยู่กับที่ โดยไม่จำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายทำไร่เลื่อนลอย อีกต่อไป นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในแง่ของการรักษาต้นน้ำลำธารอีกด้วย    

ต้นพันธุ์กะหล่ำปลีที่ให้เมล็ดพันธุ์


ไม้ผลเขตหนาวชนิดผลัดใบจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในฤดูร้อน พอถึงปลายฤดูร้อน ตาที่อยู่ตรงซอกของก้านใบจะมีการพักตัว การพักตัวของตานี้ จะต้องอาศัยความหนาวเย็นในฤดูหนาวที่เพียงพอ มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสรีรวิทยา การพักตัวจึงจะสลายหมดสิ้นไป และเป็นเหตุให้ตานั้นเจริญออกมาได้ ขบวนการ นี้เรียกว่า "การแตกตา" อย่างไรก็ตามถ้าตาที่พักตัวไปแล้ว ไม่ได้รับความหนาวเย็นอย่างพอเพียง นั่นคือ ฤดูหนาวไม่หนาวพอ ตาจะไม่สามารถแตกออกมาได้ ต้นไม้ก็จะมีการเจริญเติบโตน้อย และในที่สุดก็ต้องตายไป ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถปลูกไม้ผลเขตหนาวในพื้นที่ต่ำ ซึ่งมีความหนาวเย็นในฤดูหนาวไม่มากนักได้

 

ผลสาลี่


ไม้ผลเขตหนาวแต่ละชนิดแต่ละพันธุ์จะต้อง การความหนาวเย็นในฤดูหนาว เพื่อทำให้ตาหมด การพักตัวไม่เท่ากัน บางอย่างต้องการมาก บางอย่างต้องการน้อย ความหนาวที่มีผลในการ ทำให้การพักตัวของตาหมดไปได้นั้นถือกันว่า มีอุณหภูมิต่ำกว่า ๗.๒ องศาเซลเซียส และความต้องการอุณหภูมิที่ต่ำกว่า ๗.๒ องศาเซลเซียส เพื่อทำลายการพักตัวของตานั้น จะวัดกันเป็นหน่วยชั่วโมง พันธุ์แอปเปิลที่ปลูกกันแพร่หลายทั่วไป ในเมืองหนาวนั้น จะต้องการประมาณ ๘๐๐ ถึง ๑,๐๐๐ ชั่วโมง

ผลกีวี


ในที่สูงของประเทศไทยซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ ในระหว่างฤดูหนาวนั้น ตามความเป็นจริงแล้ว ก็ยังมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า ๗.๒ องศาเซลเซียสเพียง ไม่กี่ชั่วโมง ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งเป็นที่หนาวที่สุดแห่งหนึ่ง ก็มีอุณหภูมิต่ำกว่า ๗.๒ องศาเซลเซียสไม่เกิน ๕๐๐ ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นจะต้องคัดเลือกพันธุ์ไม้อย่างถูกต้อง คือ ควรเลือกปลูกเฉพาะพันธุ์ ที่ต้องการความหนาวเย็นน้อยเท่านั้น

ผลท้อ

  อย่างไรก็ตาม การที่จะช่วยแก้ไขภาวะ ของการขาดความหนาวเย็นนั้น ก็สามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การปรับปรุงพันธุ์ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ส่วนวิธีอื่นๆ สามารถทำได้ โดยการโน้มกิ่ง การปลิดใบ การควบคุมการให้น้ำ และการใช้สารเคมี เป็นต้น
ในที่สูงของประเทศไทย ไม้ผลเขตหนาวส่วนใหญ่จะเริ่มทิ้งใบในตอนปลายฤดูฝน พอถึงประมาณเดือนพฤศจิกายน ก็จะไม่มีใบเหลืออยู่บนต้นเลย มองดูเหมือนต้นไม้ตาย ลักษณะเช่นนี้เป็นนิสัยของไม้ผลเขตหนาวและประเภทผลัดใบ หลังจากนั้นอีกไม่นาน เมื่อตาหมดการพักตัวแล้ว ก็จะแตกตาออกมาเป็นดอกและใบ ไม้ผลเขตหนาวส่วนมากจะมีดอกบาน ก่อนที่จะเห็นใบได้ชัดเจน จึงทำให้แลดูสะพรั่งไปด้วยสีต่างๆ สวนท้อจะเป็นสีชมพูไปทั่ว สวนสาลี่ จะเป็นสีขาวไปหมด และสวนแอปเปิลก็จะเป็นสีชมพูอ่อน สวยงามยิ่งนัก

สวนท้อ


หลังจากดอกบานแล้ว ก็จะเริ่มมีการติดผล แล้วผลก็จะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง แก่และสุก การติดผลของไม้ผลเขตหนาวนั้น มีเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งคือ ไม้ผลบางชนิด บางพันธุ์ ไม่สามารถติดผล โดยใช้เกสรของพันธุ์เดียวกันได้ แต่ต้องอาศัยเกสรจากพันธุ์อื่นมาผสมจึงจะติดผล จึงจำเป็นจะต้องปลูกพันธุ์ที่เหมาะสมไว้ด้วยกัน ไม้ผลที่มักจะมีปัญหาเรื่องการติดผลนี้ได้แก่ พลับ และแอปเปิล

ดอกแอปเปิล


ไม้ผลเขตหนาวจะมีฤดูกาลของผลสุกไม่เหมือนกัน บ๊วยจะมีผลแก่เก็บได้ประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน ท้อจะเริ่มสุกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก หลังจากนั้นก็จะเป็นพลัม แอปเปิล สาลี่ และพลับ โดยลำดับ ผลไม้บางอย่าง เช่น ท้อพันธุ์ดีนั้น จะสุกเร็วกว่าในประเทศอื่น เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศหนาวไม่นาน และมีความร้อนในระหว่างที่ผลไม้เจริญเติบโตอย่างเพียงพอ ทำให้มีความเหมาะสมที่จะส่งไปขายยังตลาดต่างประเทศมาก

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow